By : 
ในวงการเกม เรื่องราวต่างๆ เทคโนโลยีเกมก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะมีความซับซ้อนและชวนเข้าใจผิดอยู่หลายเรื่อง เพราะถ้าเราจะเล่นเกมเราก็ต้องรู้จักเครื่องหรืออุปกรณ์ที่ใช้เล่นก่อนจริงมั้ย แต่ถ้าใครไม่รู้ หรือฟังคนอื่นเล่ามาแบบผิดๆ มันก็อาจจะงงๆ บางเรื่องหน่อยเหมือนกัน
CPU ค่ายนั้น GPU ค่ายโน้น
มีความเชื่อหนึ่งที่ค่อนข้างฮิตมากก็คือการประกอบคอม เราควรที่จะเลือก GPU หรือการ์ดจอให้ตรงกับค่าย CPU ที่ใช้ เช่นถ้าใช้ CPU AMD Ryzen ก็ควรเลือกใช้การ์ดจอ AMD Radeon เพราะมันค่ายเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วก็ไม่จำเป็นเลย เพราะว่าจะค่ายไหนใส่กับค่ายไหนก็ทำงานหรือเล่นเกมแรงได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสเปคของที่เราจะเลือกมากกว่า
การ์ดจอยิ่งแรมเยอะยิ่งแรง
จริงอยู่ที่แรมการ์ดจอเยอะก็มีส่วนที่ส่งผลในการเล่นเกมให้ดีขึ้น เช่นสามารถปรับค่าความละเอียดของ Texture เกมได้ในระดับสูง แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าการ์ดจอตัวนั้นจะแรงกว่าตัวอื่น เพราะความแรงนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นรุ่นของชิป ความเร็วสัญญาณนาฬิกา หรือเอาง่ายๆ ก็คือ รุ่นที่ออกใหม่กว่า แพงกว่า ก็มักจะแรงกว่า ไม่ได้อิงกับแรมการ์ดจอเสมอไป
จอ 60Hz มี FPS เกิน 60 ได้
เวลาเรามีคอมแรงๆ แล้วพอเล่นเกมที่มี FPS สูงๆนั้น บางทีเกมจะแสดงให้ดูที่ขอบจอว่ามันพุ่งไปเป็นร้อยๆ แต่ถ้าเราใช้จอที่มี refresh rate ที่ 60Hz หรือ ‘การกระพริบต่อวินาที’ ได้ 60 frame per second จอของเราก็ยังแสดงภาพจริงออกมาได้แค่ 60FPS เท่าเดิม ส่วน FPS ที่เกินนั้นก็แค่แสดงไว้เฉยๆ ว่าคอมเราสามารถไปถึงได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเล่นเกมแบบ Hz สูงของแท้ ก็ต้องไปซื้อจอที่ refresh rate สูงแบบ 120Hz, 144Hz หรือ 240Hz นะ
เมาส์ DPI เยอะๆ ยิ่งเทพ
ค่า DPI หรือ Dot per inch คือสเปคของความไวที่เมาส์ตัวนั้นสามารถทำได้ เราคงรู้กันว่ายิ่งเยอะๆ ยิ่งลากไปไว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมาส์ที่ DPI เยอะเป็นหมื่นๆ จะดีที่สุด เพราะบางทีความเร็วขนาดนั้นเราอาจจะไม่ได้ใช้เพราะคุมไม่อยู่ เพราะฉะนั้นเมาส์ที่ดี ก็คือเมาส์ที่เหมาะกับเรา จับแล้วถนัด ฟังก์ชันได้ ไม่ใช่แค่ค่า DPI เสมอไป
ซื้อหูฟังทั้งที ต้องมี 7.1
หูฟังเป็นเกมมิ่งเกียร์อีกตัวที่สำคัญมากๆ สำหรับคนเล่นเกม และในปัจจุบันเทคโนโลยีเสียงก็มาไกลมากขึ้นจนเราสามารถหาซื้อหูฟัง 7.1 Surround มาใช้งานได้แบบง่ายๆ แล้ว แต่เสียง 7.1 Surround นั้นไม่ได้เหมาะกับทุกเกม เพราะบางเกมไม่ได้มีระบบเสียง 7.1 ติดตั้งมาด้วย ทำให้การเปิดระบบเสียง 7.1 ที่ตัวหูฟังอาจทำให้เสียงที่เราได้ยินนั้นหลอนทิศทางเอาได้ และที่สำคัญเกมที่ใช้เสียงแบบ Stereo 2.0 ในปัจจุบันก็ให้เสียงโอบล้อมที่สมจริงได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะตรวจสอบสเปคหูฟังที่จะซื้อ และเกมที่เล่นเป็นประจำให้ดีก่อน
คอนโซลต้องต่อทีวีเท่านั้น
แม้ทีวีจะเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสมที่สุดสำหรับคอนโซล แต่ก็ไม่จำเป็นว่าเครื่อง PS4 หรือ Xbox นั้นจะต้องต่อกับทีวีเพียงอย่างเดียว เพราะมันสามารถเอามาต่อกับจอคอมพิวเตอร์ได้แบบไม่มีปัญหา หรือจะต่อจอพกพาขนาดเล็กที่เค้าทำมาให้โดยเฉพาะก็ยังได้ โดยเรื่องราวอื่นๆ ของจอคอมและ PS4 สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
ทีวีต่อ PS4 ต้อง Sony ดีสุด
Disclaimer: ทีวีทุกยี่ห้อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเครื่อง PlayStation 4 ได้ รวมถึง Sony ก็เช่นกัน ไม่ได้หมายความว่า Sony มีปัญหาแต่อย่างใด
อีกความเชื่อหนึ่งที่ได้ยินกันมาหนาหูก็คือถ้าจะเลือกทีวีสักเครื่องมาต่อ PS4 ก็คงจะต้องเป็น Sony เพราะยี่ห้อเดียวกันย่อมทำงานได้ดีกว่า ซึ่งในความเป็นจริงการเลือกทีวีมาต่อกับ PS4 นั้นก็เป็น ‘ทีวีที่เราชอบ ในงบที่เราไหว’ มากกว่า เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีสไตล์ของภาพและลูกเล่น รวมถึงค่า input lag ที่เหมาะกับการเล่นเกมที่ต่างกัน ซึ่งไม่ว่าจะตัวไหนก็สามารถเชื่อมต่อเล่นเกมกับเครื่อง PS4 ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะเชื่อมต่อด้วยพอร์ต HDMI เหมือนกันหมด
ส่วนความดีงามจริงๆ ของทีวี Sony เมื่อเชื่อมต่อกับ PS4 ก็คือสามารถใช้จอยเกมเปิดเครื่องด้วย HDMI Device Link ผ่าน BRAVIA™ Sync ได้นั่นเอง
จะซื้อ PS4 Pro ต้องมีทีวี 4K
ตอนที่เครื่อง PS4 Pro ออกใหม่ๆ ทาง Sony ได้โปรโมทเรื่องการเล่นเกมในความละเอียด 4K ไว้มาก จนทำให้เกิดความเชื่อว่า ‘ถ้าจะซื้อเครื่องโปร ต้องมีทีวีหรือจอ 4K เท่านั้นถึงจะคุ้ม’ แต่ความเป็นจริงนั้นเมื่อต่อ PS4 Pro กับจอ 1080p จะได้ลูกเล่นเพิ่มเติมกว่า PS4 ธรรมดาอยู่เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไ
1. สามารถเลือกโหมด Supersampling เพื่อจำลองความละเอียด 4K ขณะเล่นเกมได้ (ลองแคปจอออกมาดู ภาพเป็นความละเอียด 4K เลยเธอ)
2. บางเกมมีให้เลือกเล่นด้วยเฟ
3. มีการอัปเกรดรายละเอียดของก
4. บางเกมอาจมีเฟรมเรทที่ตกกว่
โดยเรื่องราวอื่นๆ ของจอคอมและ PS4 สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไปกินเกลือบ้านตาแป๊ะ
