By : 
ในที่สุด Open Beta ของเกม JUMP FORCE ก็ได้มาให้เราลองกันแล้ว แม้จะมีปัญหาในการเข้าเกมอยู่บ้าง (หรือไม่บ้าง T T สู้ๆ นะครับทีมงาน) ทีมงาน GG2 ก็ได้ลองเล่นเกมนี้จน “จับใจความ” ของมันได้แล้วล่ะ และแน่นอนว่าเราสรุปมาให้อ่านกันแล้ว จะได้ตัดสินใจกันเอาว่า ซื้อดีมั้ย?
เข้าเล่นผ่านล็อบบี้
ถ้าใครเคยเล่น Dragon Ball FighterZ มาก็จะคุ้นเคยกับระบบล็อบบี้ออนไลน์ของ JUMP FORCE เพราะเหมือนกันมาก (ก็เกมของ BANDAI NAMCO นี่นา) โดยระบบนี้จะเป็นแผนที่เล็กๆ ที่สามารถเอาตัวละครของเรา (สร้างเอง) เข้าไปเดินเล่นทักทายผู้เล่นคนอื่น และเข้าโหมดต่อสู้ต่างๆ ทั้ง Offline/Online โดยการคุยกับ NPC
กดท่าอย่างง่าย
หลายคนอาจจะกลัวการเล่นเกมต่อสู้ด้วยเหตุผลที่ว่า “กลัวกดท่าไม่ได้” แต่ปัญหาที่ว่าจะไม่เกินขึ้นกับ JUMP FORCE เพราะมันเป็นเกมที่กดท่าค่อนข้างง่าย จนอาจจะง่ายไปสักหน่อย ตัวเกมมีการกดท่าโจมตีมาตรฐานเตะ/ต่อย และหลบ ไม่ต่างจากเกมต่อสู้ทั่วไป แต่จะมีท่าโจมตีที่เป็นท่าพุ่งในตัวด้วย และสามารถกดปุ่มเดียวต่อเนื่องเพื่อเป็นคอมโบอย่างง่ายได้ (เหมือนใน Dragon Ball FighterZ) จึงไม่ต้องห่วงเลยว่าพื้นฐานเกมนี้จะยาก
ส่วนท่าที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยนั้นก็ไม่ยากเช่นกัน เพราะเมื่อเรากด R2 (PS4) จะมีท่าขึ้นให้เลือกตามเกจพลังที่พอใช้เลย 4 ท่า โดยท่าไม้ตายที่ใหญ่ที่สุดหรือท่าตัว X ต้องใช้เกจพิเศษที่ได้จากการถูกโจมตี (แหม่ มันโชเน็นจริงๆ)
กราฟิกสุดติ่ง
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ JUMP FORCE คงหนีไม่พ้นภาพที่สวยล้ำมากๆ จาก Unreal Engine 4 ทั้งภาพตัวละครที่สวยคม ฉากที่อลังการ มีแสงเงาสะท้อนวิ้งระดับเทพ และเอฟเฟคต่างๆ ที่โคตรจัดเต็มสุดตระการตา
และแม้ตัวเกมจะรันด้วย 30FPS แต่ก็ถือว่ามีโมชั่นที่ลื่นไหลพอสมควร เพราะสามารถรักษาเฟรมเรทได้นิ่ง และมีการเอา motion blur เข้ามาช่วย ทำให้ไม่รู้สึกว่ามันกระตุกแต่อย่างใด (แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถรันแบบ 60FPS ได้เหมือนเกมต่อสู้อื่นๆ เช่น Tekken 7 หรือ SOULCALIBUR VI)
สามารถดูภาพตัวอย่างจาก JUMP FORCE Open Beta ได้ที่นี่
ซื้อเล่นดีมั้ย
แน่นอนว่าการเล่นเกมในเวอร์ชั่นเบต้าเป็นระยะเวลาสั้นๆ อาจจะตัดสินอะไรได้ไม่มาก แต่ทีมงาน GG2 ก็มีคำแนะนำสั้นๆ มาให้เพื่อนๆ เกมเมอร์ทุกคนฟัง หลังจากที่ได้เล่นมาแล้ว ตามนี้เลย
ซื้อเลย! – ถ้าคุณเป็นแฟนการ์ตูนยุค 90-2000 หรือเสพ Shonen Jump เป็นกิจวัตรและชื่นชอบตัวละครเหล่านี้มากๆ เพราะเกมนี้ได้ให้ “ชีวิตใหม่” กับตัวละครพวกนี้ในโลกแห่งเกมอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ เสียง และเอฟเฟคสุดอลังที่หาไม่ได้จากหน้ากระดาษหรืออนิเมชัน รวมไปถึงซื้อไว้ต้อนรับเพื่อนเวลามาบ้านคุณเพื่อดวลกันด้วยตัวละครในวัยเด็กเหล่านี้
กลับไปคิดก่อน – เนื่องจากเกมต่อสู้เป็นเกมคนละแนวกับเกมออนไลน์ชนิดอื่นที่มีอะไรให้ทำมากมาย หรือเกมสายเนื้อเรื่องจ๋าๆ ที่ใช้เวลาเล่นนานๆ (ซึ่ง JUMP FORCE ก็มีเนื้อเรื่องของตัวเองนะ) และการเล่นเกมต่อสู้ซ้ำๆ นานๆ อาจไม่ใช่ทางของเกมเมอร์บางคน ต้องลองถามตัวเองดูนะ
JUMP FORCE เปิดให้เล่นบน PS4 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 และ Steam/Xbox One 15 กุมภาพันธ์ 2019 เตรียมตัวแลกหมัดกันได้เลย!
