นางโจรปล้นใจ – รีวิว Marvel’s Spider-Man: The Heist 

นับตั้งแต่เกมออกจนถึงตอนนี้ Marvel’s Spider-Man นั้นมีอายุได้ 1 เดือนกว่าแล้ว ซึ่งยอดขายกว่าหลายล้านชุดคงการันตีได้ว่ามีเกมเมอร์หลายคนที่เล่นจบแล้วแน่นอน แต่ทั้งหมดที่เราว่ามานั่นคือแค่ส่วนของ “เนื้อเรื่องหลัก” เพราะเกมนี้มันไม่ได้จบลงที่ตรงนั้นซะทีเดียว

The City That Never Sleeps อย่าไปเลยนิวยอร์ก จะบอกให้

เนื้อเรื่องเสริมทั้งหมด 3 ส่วนของฮีโร่แมงมุมคนนี้นั้นถูกมัดรวมกันในชื่อ The City That Never Sleeps (เป็นชื่อเล่นของเมือง New York ) โดยจะถูกปล่อยออกมาเดือนละ 1 ตัวหลังจากเกมออก

• The Heist – เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Felicia Hardy หรือจอมโจรสาว Black Cat ที่เข้ามาพัวพันกับปริศนาจากการโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์ เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2018
• Turf Wars – ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด จะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในเดือนพฤศจิกายน 2018
• Silver Lining – ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด จะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในเดือนธันวาคม 2018

The Heist นั้นจะเป็นเนื้อเรื่องหลังจบเนื้อเรื่องหลัก หมายความว่าเราต้องเคลียร์เกมก่อนมาเล่นนั่นเอง (และมีเนื้อหาที่สปอยล์เนื้อเรื่องหลักเล็กน้อยอีกด้วย) ซึ่งอีก 2 ตัวที่ตามมาก็เช่นเดียวกัน

The Heist – ไอ้เธอมันคือนางแมวยั่วสวาท

เรื่องราวบทนี้ “เรา” หรือนายชุดแดงสไปเดอร์-แมนนั้นจะได้ไปพัวพันกับ Felicia Hardy aka. จอมโจรสาว Black Cat ที่ได้ผ่านตากันมาในเนื้อเรื่องหลักบ้างแล้ว โดยตัวปัญหาหลักของเรื่องจะเกี่ยวข้องกับทั้งตัว Blackcat เอง และกลุ่มวายร้าย Hammerhead ซึ่งนอกจากเราจะต้องมาทำหน้าที่เพื่อนบ้านที่แสนดีคอยตามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในเกมยังมีการพูดถึงเรื่องราวในอดีตระหว่าง “แมงมุม” กับ “แมว” 2 คนนี้อีกด้วย

ถ้าพูดถึงเฉพาะ “เนื้อเรื่องหลัก” ส่วนเสริมตัวนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวเกมหลัก มีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง gameplay และการเล่าเรื่องที่ชวนให้ติดตามเหมือนเดิม และยังไม่พ้นทิ้งปริศนาเอาไว้อีกด้วย

มีการพูดถึงเรื่องราวในอดีตระหว่าง

“แมงมุม” กับ “แมว”

ภารกิจย่อยคล้ายเดิม เพิ่มเติมคือความท้าทาย

นอกจากเรื่องราวหลักของน้องแมวแล้ว The Heist ยังมีการเพิ่มภารกิจย่อยเข้ามาให้ได้เล่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมชุดใหม่ที่สามารถพบเจอได้จากการโหนใยเล่นในเมือง, ของที่ถูกซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ และภารกิจท้าทายรูปแบบใหม่ที่นำพาความหัวร้อนมาให้ไม่แพ้ตอนไล่จับโดรน ซึ่งถึงแม้รวมๆ จะฟังดูคล้ายกับของเดิม แต่ก็ทำให้การเล่นส่วนเสริมตัวนี้มีสีสันมากขึ้น

3 ชุดใหม่ เอาใจแฟนคอมิกส์

ตามที่ได้ประกาศไว้ The Heist ได้มีการเพิ่มชุดใหม่เข้ามา 3 ชุด ซึ่งแต่ละชุดนั้นมีเงื่อนไขในการปลดล็อกที่ต่างกันเช่นเคย (และแน่นอนว่าส่วนเสริมตัวต่อไปคงจะมีชุดให้ปลดล็อกกันเพิ่มอีก)

โดยชุด Scarlet Spider II และ Spider UK จะเป็นชุดที่มาจากการ์ตูนคอมิกส์ ส่วนชุด Resilient Suit นั้นเป็นชุดที่ได้รับการออกแบบใหม่ในเนื้อเรื่องของภาคนี้

Scarlet Spider II

Spider-UK

Resilient Suit

The Heist ไม่เหมือนส่วนเสริม แต่เหมือนได้เล่นเกมต่อ

ไม่ใช่แค่เรื่องราวระหว่าง Spider-Man กับ Black Cat แต่ The Heist นั้นเป็นส่วนเสริมที่ทำให้เราเหมือนได้ “เล่นต่อ” จากตัวเกมหลักจริงๆ เพราะเต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ที่ถูกใส่มาสร้างบรรยากาศให้กับเกม ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์คุยกันของตัวละครที่สอดแทรกเรื่องราวใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หรือแมนฮัตตันที่แม้จะสงบลงบ้างจากเหล่าร้ายตัวพ่อแต่ก็ยังคงวุ่นวายไม่เคยเปลี่ยน และที่ขาดไม่ได้คือบทพูดสุดฮาของสไปดี้ที่ทำให้เกมนี้ดูมีชีวิตไม่เหมือนใคร

ทั้งหมดนี้จึงทำให้เราแอบเสียดายเล็กๆ ที่เรื่องราวมันจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติสำหรับ “ส่วนเสริม” ที่ถูกแยกขายออกเป็น 3 ส่วน เพราะเมื่อได้เล่นครบทั้ง 3 ตอนแล้วก็คงจะมีความยาวรวมกันไม่น้อย และขยายจักรวาลของเกมน้ีออกมาได้กว้างขึ้นเป็นกอง

และถ้าถามเราว่าส่วนเสริมตัวนี้มันคุ้มค่าที่จะซื้อมั้ย ก็ต้องตอบว่าสำหรับผู้ที่เล่น Marvel’s Spider-Man จบแล้ว ถ้าอยากที่จะติดตามโลกของไอ้แมงมุมตัวนี้ต่อไป ก็ควรหามาเล่นเพื่อเติมเต็มเรื่องราวครับ

8/10

ถ้าอยากจะติดตามโลกของไอ้แมงมุมตัวนี้ต่อ

ก็ควรหามาเล่นเพื่อเติมเต็มเรื่องราว

ส่วนเสริม The Heist นั้น ในประเทศไทยมีวางจำหน่ายผ่าน Playstation Store ดังต่อไปนี้

• Marvel’s Spider-Man: The Heist ราคา 340 บาท
• Marvel’s Spider-Man: The City That Never Sleeps รวมส่วนเสริมทั้ง 3 ชุด ราคา 840 บาท
• Marvel’s Spider-Man Digital Deluxe Edition ซึ่งเป็นตัวเกมหลักพร้อมส่วนเสริมทั้ง 3 ชุด ราคา 1,940 บาท

และผู้ที่เป็นเจ้าของเกมแบบ Deluxe Edition และ The City That Never Sleeps อยู่แล้ว สามารถดาวน์โหลด The Heist รวมถึงส่วนเสริมในอนาคตมาเล่นตามเวลาที่ปล่อยได้ทันที